30 มิถุนายน 2553

Real life in the social


ฉันรู้ว่าทุกคนที่เกิดมาบนโลกนี้ มีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่าความไม่เท่าเทียม เข้ามาเป็นตัววัดโชคชะตา
แม้กฎหมายได้บัญญัติว่า ชายและหญิงมีความเท่าเทียมกัน แต่ก็ไม่ได้หมายถึงว่าจะบริบูรณ์ทุกอย่าง
นั่นก็แปลว่า โลกแห่งความเป็นจริงแล้ว ทุกคนไม่มีโอกาสเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะเสรีภาพ เป็นเรื่องที่
คนบางกลุ่มไม่มี พวกเขาถูกตีตราว่าเป็น ที่รังเกียจของสังคม ในสังคมอินเดียแล้ว จัณฑาลนั้นอาจอยู่ต่ำสุด
แต่ในไทยเรา กลับมองเห็นว่า "ขอทาน"เป็นชนชั้นต่ำ หากเรามองอีกแง่ว่า คำว่าขอทานมีความหมายที่ดีในตัวของมันเอง
ขอทานในที่นี้ หากเรามองอีกแง่ที่ไม่ใช่เงิน ก็อาจเป็นทานต่างๆที่สามารถทำได้ ฉันยังคิดอยู่ในใจทุกคนก็ต้องขอทานใช่ไหม อภัยทาน ธรรมทานฯ เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา แต่ทำไมเล่า คนในสังคมไม่เกื้อหนุนจุนเจือกัน
ทุกข์ ทุกชีวิตย่อมมีปัญหา ปัญหามีทางแก้ อย่างที่นักปราชญ์ได้บอกไว้ แต่มีปัญหาหนึ่งมีทางออก แต่ทำไมไม่ได้รับการแก้ไข
เช้าวันหนึ่ง แม้ท้องฟ้ายังไม่สว่างนัก แต่ก็ยังมีผู้คนจำนวนหนึ่งต้องตื่นมาพร้อมๆกับอุปกรณ์หนึ่งที่เรียกว่า ขัน กะลา
พวกเขาต้องตื่นเช้ากว่าพ่อค้าแม่ค้าเสียอีก พวกเขาถูกเรียกว่า พวกขอทาน ฉันขับรถออกมาจากบ้านเวลาหกโมงเช้า ด้วยความที่มีเวลาว่าง ในวันนั้น เพื่อที่จะกลับมาหอพัก แต่ในใจก็อยากเห็นบรรยากาศยามเช้าของข้างนอกบ้าน ฉันจึงขับรถ
มุ่งไปทางในเมือง(เชียงราย) แต่พอขับรถมาถึงจุดๆหนึ่ง สี่แยกไฟแดงหน้ามอราชภัฏฯก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน และเชื่อว่ามันมีอยู่ทุกสักคม แต่ทำไม เขาผู้นั้นที่ขับรถทำไมถึงทำแบบนั้น ผู้ชายคนนั้นขับรถยนต์รุ่นดีแม็คสีบลอนทอง เขาจอดรถชลอที่สี่แยก ตอนนั้นยังเช้าอยู่ ไม่มีทั้งตำรวจ ผู้สัญจรไปมาก็น้อยมาก แทบจะไม่มีใครผ่่านมาเห็น
ชายผู้ขับรถใส่เสื้อแขนยาวสีดำ เขาลงจากรถ พร้อมทั้งโยนคนแก่ กับเด็กอีกหลายคนลง ทำเหมือนพวกเขาเป็นสิ่งของ
ร่างกายของพวกเขาพิการ พวกเขาต้องคลานไปตามแนวทางเดินข้างๆขอบทาง ฉันทำเป็นจอดรถเพื่อโทรศัพท์ พร้อมทั้ง
ชายตามองไปทางอื่น ชายผู้นั้นที่ขับรถก็ได้ขับจากไปพร้อมกับคนที่นั่งข้างหลังอีกประมาณสามสี่คน ฉันจำหน้าเขาไม่ได้ ป้ายทะเบียนก็แลมองไม่ชัดเจน แต่ก็เหลือบไปเห็นคนแก่กับเด็กน้อยที่ขาของพวกเขาพิการอยู่กำลังคลืบคลานไปตามทางเดิน คนแก่คนนั้นชี้ให้เด็กน้อยอีกสองคนคลานไปคนละที่ ร่างกายพวกเขาผอมโซ เขาใช้มือหรือบางคนใช้เท้าจับขัน กะลาไว้ ฉันรู้ทันทีว่าพวกเขาเป็นพวกขอทาน แต่ทำไม? ทำไมไม่ใครช่วยเหลือพวกเขาเหล่านี้ สังคมไทยยังมีการแบ่งชนชั้นอีกมากหรือ ทำไมไม่มีหน่วยงานดูแลถึงเรื่องนี้ สำหรับตัวฉันแล้ว หากฉันเข้าไปยุ่งเกี่ยวฉันคิดว่าจะต้องมีเรื่องบานปลาย
เพราะหลายคนก็ไม่เคยสนใจถึงเรื่องนี้ แต่มันเป็นภาพที่ทำให้ฉันตื้นตันใจ ฉันอยากขับรถตามผู้ชายคนนั้นไป แต่ในใจฉันก็กลัว ฉันขับรถกลับไปอีกทาง เพื่อที่ว่ากลับหอดีกว่า แต่สายตาของฉันก็ยังหันไปมองพวกเขาอยู่ แต่ฉันช่วยอะไรไม่ได้เลยหรือ ทำอะไรไม่ได้เลย ฉันไม่อยากให้ฉันพบเจอกับภาพนั้นอีก ฉันสงสารพวกเขาที่พวกเขาเป็นแบบนั้น ฉันจึงตัดสินใจ เขียนจดหมายร้องเรียนไปยังหน่วยของของรัฐหน่วยหนึ่งไม่รู้เขาจะช่วยได้ไหม หรือแก้ปัญหาได้หรือเปล่า แต่ฉันอยากบอกกับทุกคนว่า หากเป็นไปได้ หากคุณยังพอมีเงินหรือคุณคิดว่ามันเป็นเศษสตางต์ในกระเป๋า ก็จงทำทาน ด้วยการให้เงินนั้นช่วยเลหือพวกเขา บางทีมันอาจเป้นอานิสงค์แก่คุณในภายภาคหน้า


บทความโดย...ภุมริน

1 ความคิดเห็น: