
กระบวนการระงับคดีอาญา
กระบวนการระงับข้อพิพาททางอาญาแตกต่างกันตามประเภทของคดีอาญา
คดีอาญาแบ่งออกเป็นประเภท ๆ ดังต่อไปนี้
(๑) คดีความผิดลหุโทษ
(๒) คดีความผิดอาญาอันยอมความได้
(๓) คดีความผิดอาญาแผ่นดิน
คดีความผิดลหุโทษ หมายถึง ความผิดอาญาแผ่นดินที่มีโทษเล็กน้อย ซึ่ง
กฏหมายได้กำหนดโทษไว้เพียงจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำ
ทั้งปรับ เช่น ทะเลาะกันอย่างอื้ออึงในทางสาธารณะ , ยิงปืนในหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันสมควร ,
เสพย์สุราจนเมาประพฤติตนวุ่นวายในสาธารณะสถาน , หรือดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า เป็นต้น จะเห็น
ได้ว่าความผิดลหุโทษนั้นไม่ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง แต่อย่างไรก็ตามความผิดลหุโทษนี้
กฏหมายไม่ได้กำหนดให้เป็นความผิดอันยอมความได้ ดังนั้น แม้ผกู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ไม่
ติดใจดำเนินคดีไป ก็ไม่ทำให้คดีระงับไปได้ แต่ความผิดลหุโทษนี้เจ้าพนักงานสามารถเปรียบ
เทียบปรับได้ เมื่อผู้ต้องหาชำระค่าปรับตามที่ได้ทำการเปรียบเทียบแล้ว คดีก็เป็นอันระงับสิ้นไป
ความผิดอาญาอันยอมความได้ หมายถึง คดีอาญาประเภทซึ่งก่อให้เกิดความ
เสียหายต่อเอกชนคนหนึ่งคนใดเป็นส่วนตัว มิได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐหรือสังคมเป็น
และความผิดใดจะเป็นความผกิดอาญาอันยอมความได้นั้น กฎหมายจะต้องระบุไว้ชัดเจนว่าเป็น
ความผิดอันยอมความได้ เช่น ความผิดฐานยักยอก ฉ้อโกง หมิ่นประมาท ทำให้เสียทรัพย์
อนาจาร ข่มขืนกระทำชำเรา ออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงิน เป็นต้น ความผิด
อาญาอันยอมความได้นี้เจ้าพนักงานของรัฐจะดำเนินคดีได้ก็ต่อเมื่อผู้เสียหายร้องทุกข์ (แจ้งความ)
ต่อเจ้าพนักงานตามกฎหมายเสียก่อน และต้องร้องทุกข์ภายในกำหนด ๓ เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่อง
ความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด สำหรับคดีความผิดอันยอมความได้นี้ หากผู้เสียหายไม่ประสงค์จะ
ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป ก็สามารถถอนคำร้องทุกข์ ถอนฟ้อง หรือยอมความได้ ซึ่งก็จะเป็น
ผลให้คดีดังกล่าวระงับไป
ความผิดอาญาแผ่นดิน หมายถึง คดีอาญาประเภทที่นอกจากจะทำให้เกิดความ
เสียหายแก่ผู้เสียหายโดยตรงแล้ว ยังก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐและสังคมโดยส่วนรวมอีกด้วย
ความผิดอาญานอกจากที่กฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นความผิดอันยอมความได้แล้ว จะเป็นความ
ผิดอาญาแผ่นดินทั้งสิ้น เช่น ความผิดฐานลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ทำร้าย
ร่างกาย ฆ่าคนอื่น วางเพลิงเผาทรัพย์ ขับรถประมาท เป็นต้น ซึ่งความผิดอาญาแผ่นดินนี้ แม้ผู้
เสียหายไม่ติดใจดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ก็ไม่ทำให้คดีระงับ เจ้าพนักงานของรัฐก็สามารถดำเนิน
คดีกับผู้กระทำผิดต่อไปได้
คดีอาญาดังกล่าวสามารถระงับหรือเลิกกันได้ ดังนี้
๑. คดีอาญาเลิกกันโดยยินยอมเสียค่าปรับอย่างสูง ในคดีอาญาซึ่งมีโทษเล็กน้อย
คือ มีโทษปรับแต่เพียงสถานเดียว เมื่อผู้กระทำผิดยินยอมเสียค่าปรับในอัตราอย่างสูงสำหรับ
ความผิดนั้นแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนศาลพิจารณาคดีนั้นก็เป็นอันเลิกกัน
ตัวอย่าง เช่น บริษัทดอกประดู่ จำกัด ละเลยไม่ลงคำว่า "จำกัด" ไว้ท้ายชื่อบริษัท
ในป้ายสำนักงาน ซึ่งเป็นความผิดอาญา ตาม พ.ร.บ.กำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจด
ทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ พ.ศ.๒๔๙๙ มาตรา ๕ ต้องระวางโทษ
ปรับสถานเดียวไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท อย่างนี้เมื่อบริษัทดอกประดู่ จำกัด ถูกเจ้าพนักงานดำเนินคดี
ก่อนที่จะนำคดีดังกล่าวขึ้นฟ้องต่อศาล บริษัทยินยอมเสียค่าปรับในอัตราอย่างสูงคือ ๒,๐๐๐ บาท
แก่พนักงานเจ้าหน้าที่คดีแาญานั้นก็เป็นอันเลิกกัน
๒. คดีอาญาลหุโทษเลิกกันโดยการเปรียบเทียบ ในคดีอาญาความผิดลหุโทษหรือ
ความผิดอาญาที่มีอัตราโทษไม่สูงกว่าความผิดลหุโทษ หรือคดีอื่นที่มีโทษปรับสถานเดียวอย่างสูง
ไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท หรือความผิดต่อกฎหมายภาษีอากร ซึ่งมีโทษปรับอย่างสูงไม่เกินกว่า ๑๐,๐๐๐
บาท เมื่อผู้ต้องหาชำระค่าปรับตามที่พนักงานสอบสวนทำการเปรียบเทียบแล้ว คดีก็เป็นอันเลิกกัน
ตัวอย่าง นายแดง เสพสุราจนเมาแล้วประพฤติตนวุ่นวายครองสติไม่ได้ขณะอยู่ใน
สาธารณะสถานต่าง ๆ ย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๗๘ ซึ่งมีอัตราโทษปรับ
ไม่เกิน ๕๐๐ บาท ซึ่งเป็นความผิดลหุโทษ เมื่อนายแดงถูกจับส่งพนักงานสอบสวน และพนักงาน
สอบสวนได้ทำการเปรียบเทียบปรับนายแดงเป็นเงิน ๑๐๐ บาท มาชำระให้ตามที่พนักงานสอบสวน
ทำการเปรียบเทียบ คดีก็เป็นอันเลิกกัน
๓. คดีอาญาในความผิดอันยอมความได้ ระงับโดยการถอนคำร้องทุกข์ ถอนฟ้องและ
ยอมความ สำหรับคดีอาญาความผิดอันยอมความได้สามารถระงับคดีได้ ดังนี้
(๑) โดยการถอนคำร้องทุกข์ เนื่องจากความผิดอาญาอันยอมความได้นั้น เจ้า
พนักงานจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้ก็ต่อเมื่อผู้เสียหายได้ร้องทุกข ์(แจ้งความ) ต่อเจ้าพนักงานเสีย
ก่อน และจะต้องร้องทุกข์ภายในกำหนดเวลา ๓ เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องการกระทำผิดและรู้ตัว
ผู้กระทำผิด ฉะนั้นเมื่อผู้เสียหายร้องทุกข์และต่อมาเจ้าพนักงานได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ไม่ว่าคดีจะ
อยู่ในระหว่างการดำเนินคดีของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือศาล ผู้เสียหายก็มีสิทธิที่จะ
ระงับหรือยกเลิกคดีด้วยวิธีถอนคำร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ต่อพนักงานอัยการ หรือต่อศาลได้
โดยแจ้งต่อเจ้าพนักงานดังกล่าวว่าไม่ประสงค์จะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป
(๒) โดยการยอมความ สำหรับคดีอาญาอันยอมความได้นี้ เมื่อผู้เสียหายได้ร้องทุกข์
ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดแล้ว และไม่ว่าคดีดังกล่าวจะอยู่ในระหว่างการ
ดำเนินคดีของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือศาล หรือผู้เสียหายก็มีสิทธิที่จะระงับคดีหรือ
ยกเลิกคดีโดยวิธียอมความได้อีกวิธีหนึ่ง
การยอมความในคดีอาญาดังกล่าวไม่มีแบบวิธีอย่างใด เพียงแต่แสดงหรือกระทำ
อาการใด ๆ ซึ่งทำให้เห็นโดยชัดแจ้งว่าไม่ประสงค์จะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป ก็เป็นอันใช้ได้แล้ว
ตัวอย่าง เช่น นายขาวยื่นฟ้องนายแดงต่อศาลว่า นายแดงออกเช็คโดยเจตนาไม่ให้
มีการใช้เงินตามเช็ค และธนาคารได้ปฏิเสธไม่ยอมจ่ายเงินตามเช็คให้แก่นายขาว ในระหว่างที่ศาลกำลัง
กำลังสืบพยานอยู่ นายแดงและนายขาวได้ทำความตกลงต่อหน้าศาลว่า นายแดงจะชดใช้เงินตามเช็คให้
นายขาว นายขาวจึงไม่ติดใจดำเนินคดีกับนายแดงต่อไป ก็ถือว่าเป็นการายอมความกันแล้ว ซึ่งมีผล
ทำให้คดีดังกล่าวระงับไป
(๓) โดยการถอนฟ้อง คดีอาญาอันยอมความได้บางครั้งผู้เสียหายอาจจะไม่ได้
ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน แต่ได้ยื่นฟ้องผู้กระทำความผิดต่อศาลด้วยตนเอง ในกรณีนี้แม้คดีดัง
กล่าวยังไม่ถึงที่สุด เช่น กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล ไม่ว่าในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์
หรือศาลฎีกา หากผู้เสียหายประสงค์จะระงับคดีหรือยกเลิกคดีก็สามารถทำได้โดยการถอนฟ้องได้ ซึ่ง
เมื่อถอนฟ้องไปแล้วก็จะนำคดีดังกล่าวมาฟ้องอีกไม่ได้
ตัวอย่าง เช่น นายดำถูกนายเขียวฉ้อโกงเงินจำนวน ๒,๐๐๐ บาท นายดำจึงได้
ยื่นฟ้องนายเขียวเป็นคดีอาญาในข้อหาฉ้อโกง ต่อมาศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกนายเขียว ๖ เดือน นายเขียว
อุทธรณ์ ขณะคดีกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์นายเขียวคืนเงินให้แก่นายดำ นายดำจึงถอน
ฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งก็มีผลทำให้คดีนี้เป็นอันระงับหรือยกเลิกไป นายเขียวไม่ต้องถูกจำคุก ๖ เดือน ตาม
ที่ศาลชั้นต้นตัดสินต่อไป
๔. การถอนฟ้องในคดีความผิดอาญาแผ่นดิน สำหรับความผิดอาญาแผ่นดินนั้น เมื่อมี
การกระทำผิดดังกล่าวเกิดขึ้น ก็ไม่สามารถที่จะระงับคดีหรือยกเลิกคดีโดยวิธีการเปรียบเทียบหรือถอน
คำร้องทุกข์ หรือยอมความได้ ดังนั้นวิธีที่จะทำให้คดีระงับได้ก็เฉพาะวิธีถอนฟ้องเท่านั้น สำหรับความ
ผิดอาญาแผ่นดิน ผู้มีอำนาจฟ้องร้องผู้กระทำผิดต่อศาล ได้แก่ ผู้เสียหาย หรือผู้ที่กฎหมายกำหนดให้มี
อำนาจฟ้องคดีแทนผู้เสียหายพวกหนึ่ง และพนักงานอัยการอีกพวกหนึ่ง ดังนั้น เมื่อผู้เสียหายหรือผู้ที่มี
อำนาจฟ้องคดีแทนผู้เสียหายได้ยื่นฟ้องผู้กระทำผิดต่อศาลแล้ว ขณะที่คดีนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
ของศาล ไม่ว่าจะเป็นศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ หรือศาลฎีกา ถ้าคดียังไม่ถึงที่สุด ผู้เสียหายหรือผู้มีอำนาจ
ฟ้องคดีแทนผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีก็สามารถยกเลิกคดีดังกล่าวโดยการถอนฟ้องได้ ซึ่งก็จะ
เป็นผลทำให้ผู้เสียหายหรือผู้มีอำนาจฟ้องคดีแทนผู้เสียหายนำคดีดังกล่าวมาฟ้องอีกไม่ได้ แต่อย่างไรก็
ตามไม่ตัดสิทธิพนักงานอัยการที่จะนำคดีนั้นมาฟ้องอีก
ตัวอย่าง เช่น นาย ก. ลักทรัพย์ของนาย ข. ไป นาย ข. จึงได้ยื่นฟ้อง นาย ก. ต่อศาล
ระหว่างที่ศาลกำลังพิจารณาคดีอยู่ นาย ข. ไม่ติดใจจะดำเนินคดีกับนาย ก. ต่อไป นาย ข. ก็สามารถ
ถอนฟ้องคดีดังกล่าวได้ ซึ่งเป็นผลทำให้คดีนี้ระงับไป นาย ข. จะยื่นฟ้อง นาย ก. ในเรื่องนี้อีกไม่ได้
แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากคดีลักทรัพย์เป็นคดีอาญาแผ่นดิน เมื่อนาย ก. ลักทรัพย์ของนาย ข. ดังกล่าว
พนักงานสอบสวนก็มีอำนาจสอบสวนและจับกุมนาย ก. มาดำเนินคดีได้ แม้ นาย ข. เจ้าทรัพย์จะไม่ได้
แจ้งความก็ตาม เมื่อสอบสวนเสร็จ พนักงานอัยการก็มีสิทธิยื่นฟ้องนาย ก. ต่อศาลในข้อหาลักทรัพย์ของ
นาย ข. อีกได้ แม้นาย ข. จะได้ถอนฟ้องนาย ก. ไปแล้วก็ตาม
๕. การดำเนินคดีอาญาจนถึงที่สุด ในคดีอาญาทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นความผิด
ลหุโทษ ความผิดอาญาอันยอมความได้ หรือความผิดอาญาแผ่นดิน เมื่อไม่สามารถระงับคดีหรือเลิก
คดีตามวิธีต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้นจนในที่สุดได้มีการนำคดีขึ้นฟ้องร้องต่อศาล ดังนั้น เมื่อศาลได้มีคำ
พิพากษาแล้ว และคดีดังกล่าวได้ถึงที่สุด ข้อพิพาทระหว่างผู้เสียหายและจำเลยดังกล่าวก็เป็นอันระงับ
ไปผู้ใดจะนำคดีดังกล่าวมาฟ้องร้องหรือดำเนินคดีกับจำเลยคนเดียวกันกับที่ศาลพิพากษาแล้วอีกไม่ได้
เพราะถือว่าบุคคลจะถูกฟ้องซ้ำในการกระทำผิดอันเป็นกรรมเดียวอีกไม่ได้
ตัวอย่าง เช่น นาย ก. ลักทรัพย์ของ นาย ข. จึงถูกจับกุมมาดำเนินคดี พนักงานสอบ
สวนได้ทำการสอบสวนแล้วส่งสำนวนการสอบสวนมาให้พนักงานอัยการพิจารณา พนักงานอัยการ
พิจารณาแล้วมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหา และนำตัวผู้ต้องหาไปยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาล ในชั้นศาลจำเลยให้
การปฏิเสธ พนักงานอัยการจึงได้นำพยานหลักฐานเข้านำสืบต่อศาล ในที่สุดศาลพิพากษาลงโทษจำคุก
นาย ก. มีกำหนด ๑ ปี นาย ก. พอใจไม่ยื่นอุทธรณ์คดีถึงที่สุด ถือว่าคดีนี้เป็นอันระงับ ผู้ใดจะนำคดีที่
นาย ก. ลักทรัพย์นาย ข. มาฟ้องร้องอีกไม่ได้
thanks for: http://www.nksri-ju.ago.go.th/pipat6.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น