มีคนพูดว่า ถ้าเรารู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แสดงว่าเรากำลังมีความสุข....
แต่ตามความคิดเห็นของฉันมองว่า มันอาจไม่เสมอไป..
บางทีที่เรามองว่า เวลาผ่านไปเร็วนั้น อาจจะหมายถึง เราได้รับความสุขในเวลานั้นไม่เต็มที่ก็ได้ เวลาใกล้จะหมดลงแล้ว
แต่ตามความคิดเห็นของฉันมองว่า มันอาจไม่เสมอไป..
บางทีที่เรามองว่า เวลาผ่านไปเร็วนั้น อาจจะหมายถึง เราได้รับความสุขในเวลานั้นไม่เต็มที่ก็ได้ เวลาใกล้จะหมดลงแล้ว
ไม่อยากให้เวลาแห่งการพักผ่อนนั้นหมดลง... เพราะสถานการณ์ต่างๆก็ยังไม่คลี่คลายลงไปด้วยมั้ง
ก็อย่างว่า ช่วงนี้สถานการณ์บ้านเมืองวุ่นวายจริงๆ
......ประเด็นฮอทๆก็กรณีน้ำท่วม น้ำทะเลหนุนสูง สร้างความเสียหายให้กับประชาชนชาวไทยในหลายๆพื้นที่กว่ายี่สิบสามจังหวัด
นับเป็นความเสียหายครั้งยิ่งใหญ่ในรอบสามสิบปีมานี้ อีกทั้ง พลอยทำให้ราคาพืชผักต้องตีราคาสูงขึ้นเพราะเหตุอุทกภัย ทำให้ชาวสวนขาดทุน จำเป็นต้องปรับราคาขึ้น ตอนนี้ตามข่าวราคาผักบางชนิดสูงขึ้นถึง 100%แล้ว
เช่น ผักชี ถั่วฝักยาว และแตงกวาเป็นต้น
....ฝนก็ยังตกไม่ขาดสาย ปีนี้นับว่าเป็นปีที่ปริมาณน้ำฝนสูงมากจริงๆ พูดไปแล้ว รู้สึกเหนื่อยใจร่วมๆไปด้วยเลย T^T บางสถานที่ ก็เป็นแหล่งเศรษฐกิจ วัฒนธรรม ที่สำคัญๆ ทำให้มูลค่าความเสียหายเพิ่มมากขึ้น หน่วยงานทางภาครัฐเองก็ร่วมมือกับประชาชน แต่ก็ไม่วายที่จะมีกลุ่มมิจฉาชีพที่คอยจะออกมาตระเวน หลอกลวงชาวบ้าน บ้างก็มีการแอบอ้างเข้ามาในพื้นที่ ลักทรัพย์ของประชาชนผู้เดือดร้อน ซึ่งบางทีเราอาจจะมองว่า ทำไมไม่มีหน่วยงานคุ้มครอง เราก็ควรจะมองว่าเราทุกคนก็เจอเหตุการณ์นี้พร้อมๆกัน เช่นกัน ดังนั้นจะโทษใครฝ่ายใดก็ไม่ได้ มีแต่จะให้ความร่วมมือร่วมใจกัน เพราะหลังจากที่เราเจอสถานการณ์แบบนี้ไปแล้ว เมื่อเวลาผ่านไป เชื่อว่ารัฐก็คงจะวางแผนปละกำหนดนโยบายอย่างเคร่งครัด อีกทั้ง ก็คงจะดำเนินการอย่างเต็มที่ ในการจัดสรรงบประมาณเกี่ยวกับค่าความเสียหายจากการเกิดน้ำท่วม และมาตรการคุ้มครองป้องกันภัยจากอุทกภัยขึ้น ก็อยากให้ทุกๆคนอย่างพึ่งวิตกกังวลมากนะ ขอร่วมเป็นกำลังใจให้ชาวบ้านผู้ประสบภัยด้วยนะคะ
....กลับมาเรื่องของเรา ตอนนี้ก็ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว หลังจากที่ต้องปั่นหนังสือกฏหมายไปหมาดๆ ก็ต้องต่อด้วยการเอาความรู้ใหม่มายัดเข้าสมองอีก นับว่าเป็นอะไรที่ไม่ทันได้เตรียมตัวเลย แต่โชคยังเข้าข้างที่เกรดไม่ร่วง ซึ่งเป็นผลเกินคาด
แม้เกรดอีกตัวนึงยังจะไม่ออก แต่ก็คงไม่เกินกำลังความสามารถมากนัก พอที่จะพยุงสังขารตัวเองให้ต้องไปทำหน้าที่คือ
เรียนหนังสือ ประกอบกับวิชาต่างๆที่มากขึ้น กับร่างกายที่อาจจะไม่อาจต้านทานฤดูที่จะเปลี่ยนไป นั่นคือ หน้าหนาว นี่เอง...
....หลากหลายชีวิต หลากหลายมุมมองของคน ทั่วไป มองๆคิดๆดูแล้วก็ชอบกล
แต่ละคน ช่างแตกต่างกันเสียจริงๆ จึงไม่อาจที่จะบังคับบังเคให้ใครต่อใครต้องมาเหมือนๆกัน ทำตามกัน มันเป็นเสรีภาพจริงๆความเป็นประชาธิปไตย ทำให้ความเป็นปัจเจกชนกว้างขวางและคงเป็นเพราะความเหนื่อยล้าหรือท้อใจกับสถานการณ์ที่แย่ลงของโลกปัจจุบันทำให้หลายๆคนต้องใช้ชีวิตแบบแปลกๆแหวกแนว ปรับตัวไปกับโลกใหม่ ซึ่งอาจจะสร้างความตึงเครียดโดยที่ทุกคนไม่อาจจะรู้ตัวหรือมองไม่เห็นก็เป็นได้ แต่จะยังไง เราเองก็ไม่พ้นที่จะต้องเข้มแข็งไปกับชีวิตของตัวเองต่อไป
จบ..การระบาย
บทความโดย ภุมริน
"ชีวิตเรา จะเอา อะไรแน่
ย่อมผันแปร เปลี่ยนจิต และนิสัย
ชั่วอาจดี มีอาจจน วนเวียนไป
เอาอะไร ได้แน่ แก่ตัวตน
ก็อย่างว่า ช่วงนี้สถานการณ์บ้านเมืองวุ่นวายจริงๆ
......ประเด็นฮอทๆก็กรณีน้ำท่วม น้ำทะเลหนุนสูง สร้างความเสียหายให้กับประชาชนชาวไทยในหลายๆพื้นที่กว่ายี่สิบสามจังหวัด
นับเป็นความเสียหายครั้งยิ่งใหญ่ในรอบสามสิบปีมานี้ อีกทั้ง พลอยทำให้ราคาพืชผักต้องตีราคาสูงขึ้นเพราะเหตุอุทกภัย ทำให้ชาวสวนขาดทุน จำเป็นต้องปรับราคาขึ้น ตอนนี้ตามข่าวราคาผักบางชนิดสูงขึ้นถึง 100%แล้ว
เช่น ผักชี ถั่วฝักยาว และแตงกวาเป็นต้น
....ฝนก็ยังตกไม่ขาดสาย ปีนี้นับว่าเป็นปีที่ปริมาณน้ำฝนสูงมากจริงๆ พูดไปแล้ว รู้สึกเหนื่อยใจร่วมๆไปด้วยเลย T^T บางสถานที่ ก็เป็นแหล่งเศรษฐกิจ วัฒนธรรม ที่สำคัญๆ ทำให้มูลค่าความเสียหายเพิ่มมากขึ้น หน่วยงานทางภาครัฐเองก็ร่วมมือกับประชาชน แต่ก็ไม่วายที่จะมีกลุ่มมิจฉาชีพที่คอยจะออกมาตระเวน หลอกลวงชาวบ้าน บ้างก็มีการแอบอ้างเข้ามาในพื้นที่ ลักทรัพย์ของประชาชนผู้เดือดร้อน ซึ่งบางทีเราอาจจะมองว่า ทำไมไม่มีหน่วยงานคุ้มครอง เราก็ควรจะมองว่าเราทุกคนก็เจอเหตุการณ์นี้พร้อมๆกัน เช่นกัน ดังนั้นจะโทษใครฝ่ายใดก็ไม่ได้ มีแต่จะให้ความร่วมมือร่วมใจกัน เพราะหลังจากที่เราเจอสถานการณ์แบบนี้ไปแล้ว เมื่อเวลาผ่านไป เชื่อว่ารัฐก็คงจะวางแผนปละกำหนดนโยบายอย่างเคร่งครัด อีกทั้ง ก็คงจะดำเนินการอย่างเต็มที่ ในการจัดสรรงบประมาณเกี่ยวกับค่าความเสียหายจากการเกิดน้ำท่วม และมาตรการคุ้มครองป้องกันภัยจากอุทกภัยขึ้น ก็อยากให้ทุกๆคนอย่างพึ่งวิตกกังวลมากนะ ขอร่วมเป็นกำลังใจให้ชาวบ้านผู้ประสบภัยด้วยนะคะ
....กลับมาเรื่องของเรา ตอนนี้ก็ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว หลังจากที่ต้องปั่นหนังสือกฏหมายไปหมาดๆ ก็ต้องต่อด้วยการเอาความรู้ใหม่มายัดเข้าสมองอีก นับว่าเป็นอะไรที่ไม่ทันได้เตรียมตัวเลย แต่โชคยังเข้าข้างที่เกรดไม่ร่วง ซึ่งเป็นผลเกินคาด
แม้เกรดอีกตัวนึงยังจะไม่ออก แต่ก็คงไม่เกินกำลังความสามารถมากนัก พอที่จะพยุงสังขารตัวเองให้ต้องไปทำหน้าที่คือ
เรียนหนังสือ ประกอบกับวิชาต่างๆที่มากขึ้น กับร่างกายที่อาจจะไม่อาจต้านทานฤดูที่จะเปลี่ยนไป นั่นคือ หน้าหนาว นี่เอง...
....หลากหลายชีวิต หลากหลายมุมมองของคน ทั่วไป มองๆคิดๆดูแล้วก็ชอบกล
แต่ละคน ช่างแตกต่างกันเสียจริงๆ จึงไม่อาจที่จะบังคับบังเคให้ใครต่อใครต้องมาเหมือนๆกัน ทำตามกัน มันเป็นเสรีภาพจริงๆความเป็นประชาธิปไตย ทำให้ความเป็นปัจเจกชนกว้างขวางและคงเป็นเพราะความเหนื่อยล้าหรือท้อใจกับสถานการณ์ที่แย่ลงของโลกปัจจุบันทำให้หลายๆคนต้องใช้ชีวิตแบบแปลกๆแหวกแนว ปรับตัวไปกับโลกใหม่ ซึ่งอาจจะสร้างความตึงเครียดโดยที่ทุกคนไม่อาจจะรู้ตัวหรือมองไม่เห็นก็เป็นได้ แต่จะยังไง เราเองก็ไม่พ้นที่จะต้องเข้มแข็งไปกับชีวิตของตัวเองต่อไป
จบ..การระบาย
บทความโดย ภุมริน
"ชีวิตเรา จะเอา อะไรแน่
ย่อมผันแปร เปลี่ยนจิต และนิสัย
ชั่วอาจดี มีอาจจน วนเวียนไป
เอาอะไร ได้แน่ แก่ตัวตน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น